Thailand Accident Research Center
ศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย

Research

"เขาตับเต่า จ.กาญจนบุรี" จุดเสี่ยงอุบัติเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำ

ทีมสืบสวนศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่วิเคราะห์สาเหตุเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำที่เขาตับเต่า จ.กาญจนบุรี ชี้เกิดจากสภาพถนนที่เป็นทางโค้งลาดชันอันตรายและสภาพรถเก่าที่ใช้งานนานกว่า 18 ปี ประกอบกับการยึดเบาะที่นั่งไม่แข็งแรง มีผลทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก


ซากรถทัวร์นำเที่ยว หลังเกิดอุบัติบริเวณเขาตับเต่า โครงสร้างด้านหน้าและหลังคารถยุบ ไม่เหลือสภาพรถทัวร์ชั้นครึ่ง บ่งบอกถึงความแข็งแรงของโครงสร้างรถไม่ได้มาตรฐาน ทีมสืบสวนศูนย์วิจัยอุบัติเหตุแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพรถ เพื่อวิเคราะห์ถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุพบว่า แม้รถได้ตกแต่งดูใหม่ทั้งคัน แต่โครงสร้างเหล็กเป็นสนิม ใช้งานมานานถึง 18 ปี จดทะเบียนเมื่อปี 2540 ก่อนเจ้าของรถรายล่าสุดซื้อต่อมา เมื่อปี 2558 จึงตั้งคำถามผ่านการตรวจสภาพรถโดยสารสาธารณะไม่ประจำทางได้อย่างไร

นักวิจัยยังได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุบริเวณเขาตับเต่า พบว่า สภาพถนนจุดเกิดอุบัติเหตุ เป็นทางโค้งลงเขาต่อเนื่องถึง 3 กิโลเมตร เชื่อว่า เกิดความบกพร่องของรถ ขณะปลดเบรคมือ คนขับไม่ชำนาญเส้นทางและถนนที่อันตราย ซึ่งเขาตับเต่าเป็นหนึ่งใน 101 ถนนอันตรายของกรมทางหลวง

ร่องรอยอุบัติเหตุที่ทิ้งไว้บนถนน สะท้อนถึงความแรงกระแทกของรถ เสาไฟฟ้าหักโค่น 1 ต้น กำแพงคอนกรีตพังหรือแบริเออร์ข้างทางล้มเกือบ 17 เมตร เป็นอีกหลักฐานที่ชี้ชัดว่า คนขับไม่มีประสบการณ์ขับรถบนทางลาดชัน ด้าน ตำรวจ สภ.ศรีสวัสดิ์ ระบุว่า จุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง แม้จะมีป้ายแจ้งเตือนตลอดเส้นทาง และเมื่อ 2 เดือนก่อนก็เกิดอุบัติเหตุและมีผู้เสียชีวิต ส่วนความคืบหน้าคดีอุบัติเหตุครั้งนี้ ตำรวจเตรียมสอบปากคำผู้บาดเจ็บเพิ่มเติม เพราะเจ้าของรถและคนขับเสียชีวิต ส่วนผู้โดยสารจะได้รับค่าปลงศพและค่าสินไหมทดแทนจากประกันรถ

เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำรอย นักวิจัยแนะให้นักท่องเที่ยวก่อนเลือกใช้บริการรถทัวร์ ต้องตรวจสอบรถให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งาน หรือหลีกเลี่ยงใช้รถทัวร์ 1 ชั้นครึ่งหรือ 2 ชั้น ที่เสี่ยงพลิกคว่ำขณะขึ้นเขาทางลาดชัน จึงควรเลือกรถให้เหมาะกับเส้นทาง